ผ่านไปแล้วสำหรับ ประเพณีลอยกระทง ที่เป็นประเพณีขอขมาต่อสายน้ำ ซึ่งหลังคืนลอยกระทงผ่านพ้น ทั่วแม่น้ำลำคลองจะเต็มไปด้วยขยะปริมาณมหาศาลทั้งย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และย่อยสลายไม่ได้ หากถูกเก็บออกจากแหล่งน้ำล่าช้าก็จะส่งผลให้เกิดการอุดตัน
นอกจากนี้ ในวันลอยกระทงประเทศไทยยังผลิตก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอีกมหาศาลจากขยะเป็นตันๆ แม้ว่ากระทงส่วนใหญ่จะประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุตามธรรมชาติก็ตาม แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือรอยเท้าคาร์บอนที่พวกเราร่วมกันสร้างขึ้นจากการเฉลิมฉลองบูชาแม่น้ำ
หลายปีที่ผ่านมาเกิดกระแสรณรงค์ให้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะผลกระทบจาก “ขยะพลาสติก” ที่ไหลลงสู่มหาสมุทร คร่าชีวิตสัตว์ทะเล และทำลายระบบนิเวศน้ำเสียหาย
ประเทศไทยก็ได้ตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติก รัฐบาลมีการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการขยะพลาสติกในภาพรวมของประเทศ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกของประเทศไทย ภายใต้ roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 (Thailand’s Roadmap on Plastic Waste Management 2018 – 2030) โดยมีวิสัยทัศน์ว่า ก้าวสู่การจัดการพลาสติกที่ยั่งยืน ด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน (Moving Towards Sustainable Plastic Management by Circular Economy)
แม้ว่าหลายหน่วยงานยังคงรณรงค์ให้ใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ แต่กระทงทั้งหมดสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นขยะ ที่ต้องถูกนำไปกำจัด ซึ่งต้องใช้พลังงานและทรัพยากรจำนวนมากในการจัดการเรื่องดังกล่าว
แน่นอนว่า กระทงไม่ว่าชนิดใดก็ตาม ต่างก็ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำได้เช่นกัน ต่างออกไปตามแต่ละชนิด สถานที่ เช่นกรณีที่ลอยกระทงในบ่อน้ำแบบปิด หรือสระปิด อาจสะดวกต่อการจัดเก็บ นำไปฝังที่หนึ่งที่ใด แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงส่งผลกระทบเป็นขยะเช่นเดิม ไม่ว่าวัสดุทำกระทงนั้นจะทำด้วยวัสดุใดก็ตาม เนื่องมาจากระยะเวลาย่อยสลายของกระทงแต่ละชนิด ไม่เหมือนกัน
วันนี้เสธยอดอยากมาถามความคิดเห็นคนส่วนใหญ่กัน ว่าคิดยังไงกับประเพณีลอยกระทงนี้ กับการสร้างขยะในแหล่งน้ำ และคิดว่าเราควรจะลอยกันแบบไหน ถึงจะช่วยลดการสร้างขยะในแม่น้ำลงได้
#มาร่วมแสดงความคิดเห็นไปพร้อมกัน
.
ร่วมกันพัฒนาชุมชน ชาวเชียงใหม่ และสังคมไทย
ด้วยการแจ้งปัญหาในพื้นที่
คลิก : https://lin.ee/ZqQlQGq
ของพลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย
หรือ #เสธยอด
พร้อมรับฟังทุกปัญหาของเมืองเชียงใหม่