Menu Close

ข้อดี ข้อเสีย ของเงินดิจิตอล 10,000 บาท

✨ จากกรณี “พรรคเพื่อไทย” ประกาศว่า พร้อมลุยแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ตามนโยบาย Digital Wallet หรือ กระเป๋าเงินดิจิทัล อย่างเต็มรูปแบบ ให้กับคนไทย หลังขึ้นเป็นรัฐบาลสำเร็จแล้ว เพื่อใช้ กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ และนำไทยเปิดประตูสู่สังคมดิจิทัล เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจราว 3 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดจะเริ่มได้ตั้งแต่ 1 ม.ค. ปี 2567 เป็นต้นไป 🧧

เรามาดูผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้น กับเงินดิจิตอล 10,000 บาท ทั้งในข้อดี และข้อเสียว่ามีอะไรกันบ้าง
.
⏩ ข้อดี
หนุนเศรษฐกิจ เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
นโยบายนี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยหมุนเวียนได้อย่างน้อย 2 รอบ รอบแรกเป็นเงินที่ใส่เข้าไปในกระเป๋า 5.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการบริโภคของประชาชน การลงทุนของภาคธุรกิจ และทำให้มีผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้น ขณะรอบที่ 2 เมื่อรายได้เพิ่มจาก GDP ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดการบริโภคหมุนอีกรอบ โดยรวมแล้วจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจตามมาอีกมาก

ช่วยการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล
เป็นการเปลี่ยนช่องทางการอุดหนุนเงินให้ประชาชน ที่จากเดิมรัฐบาลจะเติมเงินเข้าแอปฯ เป๋าตัง แต่เปลี่ยนเป็นกระเป๋าดิจิทัลแทน ไม่น่ามีความยุ่งยาก เพราะคนไทยมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ทั้งพร้อมเพย์ และเป๋าตัง อยู่ก่อนแล้ว ที่ทำให้ในอนาคตประเทศไทยจะก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล

เทคโนโลยีบล็อกเชนจะเป็นรากฐานของระบบการชำระเงินใหม่ที่จะรองรับอนาคต ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังทำการ ทดลองก่อนใช้จริง
แม้นโยบายดังกล่าวจะหมดลง แต่โครงสร้างบล็อกเชนที่ได้ลงทุนสร้างขึ้นมาจะเป็นรากฐานของระบบการชำระเงินใหม่ที่จะรองรับอนาคต เช่น Retail Central Bank Digital Currency (Retail CBDC) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังทำการ ทดลองก่อนใช้จริง (Pilot test) ในวงแคบไม่เกิน 10,000 คน ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 65 ซึ่งจะสิ้นสุดในไตรมาส 3 ปี 66 นี้

——————————————–

⏩ ข้อเสีย
อาจทำให้เกิดหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
นโยบายลักษณะโอนเงินหรือแจกเงิน ก็คือ ข้อจำกัดของโครงสร้างงบประมาณ หากเดินหน้าทำตามนโยบายทันที ต้องก่อหนี้สาธารณะเพิ่มอย่างแน่นอน ซึ่งจะทำให้การขาดดุลงบประมาณปี 2567 เพิ่มทะลุ 1 ล้านล้านบาท หากเศรษฐกิจไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้า ไม่สามารถจัดเก็บภาษีมาสนับสนุนได้มากพอและต้องก่อหนี้อาจเกิดความเสี่ยงทางการคลังได้

หากในรัศมี 4 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้า และ บริการ ให้ใช้จ่าย จะทำเช่นไร
มีข้อติติงห่วงใยเพิ่มเติม ร้านค้าต่างๆ มีความพร้อมหรือไม่ ที่จะใช้นโยบายนี้ ทั้งอุปกรณ์ และวิธีการใช้งานเทคโนโลยี และ หากในรัศมี 4 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้า และ บริการ ให้ใช้จ่าย จะทำเช่นไร จะหาทางออกเพื่อรองรับปัญหานี้อย่างไร

อาจนำมาซึ่ง ภาวะเงินเฟ้อ หากรัฐบาลไม่สามารถคุมราคาสินค้าในตลาดได้
ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นในทันทีจะทำให้มีแรงซื้อเข้ามาจำนวนมากจนอาจเกิดการดันราคาสินค้าและบริการให้เพิ่มขึ้น ทำให้เงินที่มีอยู่มีอำนาจในการซื้อลดลง หากรัฐบาลไม่สามารถคุมราคาสินค้าในตลาดได้

โดยพนักงานที่ได้เงินเดือนเท่าเดิมจะได้รับผลกระทบ และกดดันมาที่บริษัทที่ต้องขึ้นเงินเดือนพนักงานต่อ หรือธนาคารกลางที่ต้องขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ

——————————————–

ร่วมกันพัฒนาชุมชน ชาวเชียงใหม่
ด้วยการแจ้งปัญหาในพื้นที่
👉 คลิก : https://lin.ee/ZqQlQGq
ของพลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย
หรือ #เสธยอด
พร้อมรับฟังทุกปัญหาของเมืองเชียงใหม่