ระบบฟอกอากาศในอุโมงค์นี้เป็นระบบแรกในฮ่องกงและใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่ของปริมาณอากาศที่จัดการ รูปทรงหอคอยออกแบบช่องระบายอากาศเป็นทรงเกลียวใบไม้ มีความสามารถกำจัดอนุภาคแขวนลอยและไนโตรเจนไดออกไซด์ของมลพิษบนถนนสายสำคัญสองสายไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
เคลวิน โล ผู้จัดการโครงการทางหลวงกล่าวว่า “ทุกชั่วโมงสามารถจัดการกับไอเสียรถยนต์ได้ 5.4 ล้านลูกบาศก์เมตร”
การทำงานของหอฟอกอากาศนี้ ใช้พัดลมขนาดใหญ่ดูดไอเสียจากอุโมงค์เข้าไปในหอฟอกอากาศผ่านอาคารระบายอากาศสามแห่งตามแนวอุโมงค์ อากาศจะผ่านตัวตกตะกอนไฟฟ้าสถิตซึ่งจะแยกอนุภาคที่เป็นอันตรายก่อน จากนั้นผ่านตัวกรองอีกชั้นซึ่งใช้ถ่านกัมมันต์เพื่อกำจัดไนโตรเจนไดออกไซด์ ฟอกจนอากาศบริสุทธิ์ และปล่อยระบายออกจากระบบคืนภายนอก โดยมีพลังการดูดอากาศพิษ เทียบเท่ากับพลังการดูดซับของต้นไม้กว่า 480,000 ต้น หรือเท่ากับสวนสาธารณะวิกตอเรียประมาณ 67 แห่ง
ฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งเมืองในโลกที่ยากจะเห็นฟ้าใส และจากข้อมูลของ Hedley Environmental Index ระบุว่า ในปี 2017 ฮ่องกง มีจำนวนวันฟ้าใส ที่ปลอดมลภาวะอากาศเพียง 150 วัน มีผู้เจ็บป่วยเสียชีวิต จากโรคระบบทางเดินหายใจเกือบ 10,400 คน และป่วยจนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลเกือบ 193,000 คน
สตีฟ ยิม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยไชนีส แห่งฮ่องกง กล่าวว่า ในวันที่เผชิญอากาศพิษนั้น มีตั้งแต่ อนุภาค PM2.5 และ PM10, ซัลเฟอร์ ไดออกไซด์, ไนโตรเจนออกไซด์ และโอโซน โดยพื้นที่ริมถนนจะเป็นแหล่งก่อมลพิษมากที่สุด และไนโตรเจนออกไซด์อนุภาค PM2.5 อนุภาคเล็กๆ ยังลอยมาจากโรงงาน ควันไอเสียรถยนต์ โรงไฟฟ้าฯ ในจีนแผ่นดินใหญ่
รัฐบาลฮ่องกงได้ให้คำมั่นกับประชาชนว่าจะจัดการมลภาวะอากาศของเกาะฮ่องกง และปัญหาหมอกพิษจากภูมิภาค ซึ่งแม้ว่าการมีอากาศดีเพียง 150 วันต่อปี อาจจะฟังดูเลวร้าย แต่นับว่ายังมีพัฒนาการกว่าปีก่อนหน้า ซึ่งมีวันอากาศดีเพียง 109 วัน
.
ทุกคนคิดว่า จะดีไหมถ้าเชียงใหม่เรามีหอคอยฟอกอากาศ แบบฮ่องกง ตรงสี่มุมเมืองเชียงใหม่ เพื่อช่วยขจัดฝุ่น PM2.5 อาจจะนำสินค้าการเกษตร ไปแลกกับหอคอยฟอกอากาศเป็นต้น
ใครมีความคิดเห็นว่ายังไงกับเรื่องนี้ สามารถมาร่วมแสดงความคิดเห็นไปพร้อมกันได้
..…….
ร่วมกันพัฒนาชุมชน ชาวเชียงใหม่ และสังคมไทย
ด้วยการแจ้งปัญหาในพื้นที่
คลิก : https://lin.ee/ZqQlQGq
ของพลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย
หรือ #เสธยอด
พร้อมรับฟังทุกปัญหาของเมืองเชียงใหม่
#รัฐบาลไทย #ประเทศไทย #เชียงใหม่